ลูกโม่สมิธ .45 โครงเบา PC 325 Thunder Ranch
ลักษณะกระสุนของปืนลูกโม่กับปืนกึ่งอัตโนมัติโดยทั่วไป มีความแตกต่างคือปลอกกระสุนของปืนลูกโม่มักจะยาวกว่า และมีจานท้ายกว้างยื่นพ้นตัวปลอก ความยาวช่วยให้หยิบจับเพื่อบรรจุเข้าช่องโม่ทีละนัดได้สะดวก โดยจานท้ายจะรับแป้นคัดปลอกเพื่อยกปลอกกระสุนยิงแล้วออกจากช่องโม่ ส่วนปืนกึ่งอัตโนมัติใช้ซองกระสุนเสียบในด้าม ปลอกกระสุนจะสั้นเพื่อไม่ให้ด้ามใหญ่เกินไป และไม่มีจานท้ายยื่นกีดขวางการทำงานป้อนกระสุน
ในปี 1911 กองทัพสหรัฐเปลี่ยนปืนพกจากแบบลูกโม่เป็นกึ่งอัตโนมัติ หลังจากนั้นเพียงสามปีก็เกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ปืนใหม่ที่ใช้กระสุนขนาด .45 ACP ผลิตได้จำนวนไม่มากพอ ทางกองทัพจึงรับข้อเสนอของบริษัท Smith & Wesson ที่จะปรับปืนลูกโม่โครงใหญ่ของเดิม ให้รับกระสุนของปืนกึ่งอัตโนมัติได้ เป็นจุดกำเนิดของปืนสมิธ รุ่น 1917 ใช้กระสุน .45 ของปืนกึ่งอัตโนมัติ โดยมี “แหนบเดือนเสี้ยว” (half-moon clip) เป็นอุปกรณ์เสริมทำหน้าที่รับแป้นคัดปลอกแทนจานท้ายกระสุน
หลังสงคราม สมิธพัฒนาปืน 1917 เพื่อขายในตลาดเอกชน ต่อมาได้รหัสรุ่น เป็นโมเดล 22 ศูนย์ตาย กับโมเดล 25 ติดศูนย์ปรับได้แบบยิงเป้า มีเพิ่มโมเดล 625 เหล็ก สเตนเลสในปี 1988 กับโมเดล 325 โครงสแกนเดียมในปี 2005 โดยเป็นปืนในชุดแต่งพิเศษจากศูนย์เพิ่มสมรรถนะ (Performance Center : PC) และหลังจากเว้นช่วงไม่ทำปืนเหล็กรมดำไปในระยะหนึ่ง ปัจจุบันสมิธกลับมาทำ โมเดล 25 อีกครั้ง ใช้ลำกล้อง 6 นิ้วครึ่ง โดยจัดไว้ในกลุ่มปืนคลาสสิก
ปืนโครงสแกนเดียม โมเดล 325 รุ่นแรกมีอักษร PD ต่อท้าย (ย่อจาก Personal Defense) ลำกล้อง 2.75 นิ้วโม่ไทเทเนียม ได้ปืนเบาสุดเพียง 650 กรัม ตามด้วยรุ่น 325 NG (Night Guard) ลำกล้องสั้นเท่ากันเปลี่ยนใช้โม่สเตนเลส น้ำหนักเพิ่มเป็น 795 กรัม และสุดท้ายคือ 325 TR (Thunder Ranch) ที่เป็นนายแบบสัปดาห์นี้
สมิธ PC 325 TR เป็นผลงานจากความร่วมมือระหว่างศูนย์ PC กับ Clint Smith เจ้าของ “ไร่อัสนีบาต” Thunder Ranch ที่เปิดหลักสูตรสอนการใช้ปืนต่อสู้หลายรูปแบบ คลินท์ตั้งใจให้ 325 TR เป็นปืนต่อสู้ป้องกันตัวอเนกประสงค์ ใช้ลำกล้อง 4 นิ้ว เพื่อให้ยาวพอติดรางรับไฟฉายใต้ลำกล้องได้ และสามารถถอดรางได้เพื่อเพิ่มความคล่องตัว การทำงานเป็นลูกโม่ไกดับเบิล/ซิงเกิล มาตรฐาน ยิงแบบง้างนกหรือไม่ง้างนกก็ได้ โม่เปิดออกข้างบรรจุได้ 6 นัด โดยใส่ในตับกระสุน 2, 3 หรือ 6 นัดได้ ถ้าไม่มีตับกระสุนสามารถบรรจุได้ ยิงได้ เนื่องจากรังเพลิงมีไหล่ยันปลายปลอกกระสุนเป็นตัวกำหนดระยะแทนขอบจานท้าย แต่คัดปลอกไม่สะดวกเท่าใส่ตับกระสุน การแต่งผิวเป็นสีดำด้าน ศูนย์หน้าฝังตุ่มทองเหลืองให้เห็นชัด ศูนย์หลังปรับได้ นกและไกเป็นเหล็กกล้าเนื้อแน่น เข็มแทงชนวนฝังในโครงปืนตามมาตรฐานใหม่ของสมิธ มีกุญแจล็อกการทำงาน เพิ่มความปลอดภัยในการเก็บปืนไว้ที่บ้าน โม่สเตนเลสให้น้ำหนักตัวปืนเพียง 900 กรัม เทียบได้ กับปืน 1911 ลำกล้อง 4 นิ้ว ซึ่งความยาวลำกล้องของปืนลูกโม่ไม่รวมส่วนโม่ที่เป็นรังเพลิง แต่ปืนกึ่งอัตโนมัติวัดรวมส่วนรังเพลิงด้วย เมื่อคิดเผื่อก๊าซที่พ่นออกตรงหน้าโม่ท้ายลำกล้องแล้วได้ความเร็วกระสุนใกล้เคียงกัน.
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช...
จําหน่ายอาวุธปืนนอกแท้นําเข้า.com | ขายปืนมือสอง | ขายปืนหลุดจำนำ | ขายปืนนอกแท้ | ขายปืนทุกประเภท