ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ปืนพกแบบกึ่งอัตโนมัติกำลัง “แจ้งเกิด” มีปืนใหม่ใช้ระบบการทำงานต่าง ๆ เช่น เมาเซอร์และลูเกอร์ของเยอรมนี และโคลท์ 1911 ของสหรัฐ ในขณะที่ปืนลูกโม่พัฒนาถึงจุดลงตัวพอดี ด้วยการทำงานแบบเปิดโม่ออกข้างของโคลท์ Navy (1889) และสมิธ M&P (1899) โดยตัวหลังนี้มาพร้อมกระสุน .38 Special ที่จัดว่าแรงที่สุดของยุคนั้น

เมื่อปืนและกระสุนขนาดใหม่ของสมิธฯ ได้รับการตอบสนองอย่างดี จนกลายเป็นมาตรฐานของหน่วยงานตำรวจอย่างแพร่หลาย โคลท์จึงออกรุ่น Police Positive ในปี 1907 ให้ใช้กระสุนขนาดเดียวกัน มีจุดขายคือระบบ Positive Lock โม่หมุนตามเข็มนาฬิกา ขาเขี่ยโม่อยู่ด้านซ้ายของแกนหมุน ยันขึ้นไปทางขวา ช่วยล็อกโม่ขณะกระสุนลั่นได้มั่นคงกว่าเดิมมาก และจากการวาง “ตีนผี” ตัวกำหนดตำแหน่งโม่เยื้องศูนย์หลบช่องโม่ ทำให้ตัวโม่หกนัดของโคลท์ โพลิสโพซิทีฟ เล็กกว่าสมิธ เอ็มพี ที่จุกระสุนเท่ากัน โคลท์ใช้ขนาดตัวที่เล็กกว่านี้เป็นจุดขาย ออกรุ่น Detective Special ในปี 1927 ใช้ลำกล้องสั้น 2 นิ้ว ให้เป็นปืนพกซ่อนในชายเสื้อ

และเพื่อเน้นความเป็นปืนพกซ่อน โคลท์เปลี่ยนวัสดุโครงปืน โพลิสโพซิทีฟจากเหล็กเป็นอัลลอยน้ำหนักเบา ตั้งชื่อรุ่นว่า ค็อบร่า (Cobra) เป็นงูตัวแรกของโคลท์ โดยจะมีตามอีกหลายรุ่นคือ Viper, Python, Diamondback, King Cobra และ Anaconda เปลี่ยนแนวจากเดิมที่เคยใช้ตำแหน่งหรือหน่วยงาน ตำรวจ ทหาร เป็นชื่อรุ่นปืนมาตลอด

ปืน ค็อบร่า รุ่นแรกนั้น มีจุดอ่อนคือก้านคัดปลอกไม่มี “ฝัก” หุ้มใต้ลำกล้อง อาจคดงอได้ง่าย จนถึงยุคของ ไพธ่อน (1955) โคลท์จึงเริ่มทำฝักหุ้มก้านคัดปลอก และออกแบบปืนใหม่หลังจากนั้นให้มีจุดนี้เหมือนกัน ปืนรุ่นเก่าที่ยังทำอยู่คือ ดีเท็คตีฟ กับ ค็อบร่า ยังใช้แบบเดิม จนถึงปี 1972 จึงปรับแบบเพิ่มฝักใต้ลำกล้อง แต่ทำอยู่เพียงสิบปี โคลท์มีปัญหาด้านการเงิน ปรับตัวลดขนาดองค์กร จึงเลิกผลิตปืนลูกโม่ไกดับเบิลทั้งหมดในปี 1982 เหลือเพียงปืนพก 1911 กับลูกโม่แบบซิงเกิ้ลแอ๊คชั่น เลี้ยงตัวให้รอดรักษายี่ห้อไว้ก่อน

เมื่อกลับมาตั้งหลักได้ดีแล้ว โคลท์เปิดสายการผลิตปืนลูกโม่ไกดับเบิลอีกครั้งในปี 2017 โดยเลือกทำในรูปแบบปืนลำกล้องสั้นใช้กระสุน .38 สเปเชียล ยอดนิยม ลักษณะเดียวกับ ดีเท็คตีฟ สเปเชียล แต่เปลี่ยนวัสดุจากเหล็กรมดำเป็นสเตนเลสทั้งกระบอก และเลือกใช้ชื่อ Cobra แม้ว่าน้ำหนักตัวจะมากกว่าปืนโครงอัลลอยเดิมกว่า 200 กรัม

สำหรับปืนนายแบบสัปดาห์นี้ เป็นลูกโม่ตัวเลือกใหม่ล่าสุดของโคลท์ชื่อรุ่น Night Cobra เป็นการนำค็อบร่า สเตนเลสให้เคลือบผิวเป็นสีดำด้ามทั้งกระบอกด้วยกระบวนการ DLC (Diamond-like Carbon Coating) ที่ใช้ชื่อทางพาณิชย์ว่า Titancote พร้อมกับตัดหางนก เน้นความเป็นปืนพกซ่อน และปรับไกเป็นแบบดับเบิลทุกนัด เปลี่ยนด้ามจากวัสดุยางแข็งมาเป็น G10 ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มจากรุ่นปกติประมาณ 60 กรัม

ไนท์ค็อบร่า ติดศูนย์หน้าแบบฝังจุดขาวเรืองแสง ถอดเปลี่ยนได้โดยมีสกรูยึดทางด้านหน้า ศูนย์หลังแบบถาวรคือใช้ร่องบนสันปืน ไกดับเบิลนุ่มนวลดีมากจากการออกแบบสปริง Linear Leaf รูปตัว U สองขาขนานกัน มีระบบแท่งส่งผ่านแรงจากนกสับถึงท้ายเข็มแทงชนวน ถ้าไม่เหนี่ยวไกปืนจะไม่ลั่นโดยเด็ดขาด ให้ความปลอดภัยสูงสุด.

ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช... 

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/article/714665